exportgoods
ข่าวสารต่างๆ

5สินค้าส่งออกที่สำคัญของประเทศไทย

โครงสร้างการส่งออกของประเทศไทยเราในปี 2565 ประเทศไทยได้ทำการส่งออกได้มากกว่า 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องไปถึงเดือนที่ 16 ที่ตัวเลข 12% ถ้าเทียบกับเมื่อปีก่อน

และประเทศไทยกำลังอยู่ในสถานการณ์ความกดดันจากการสู้รบของยูเครนและแผนการคว่ำบาตรของรัสเซียที่ทำให้ส่งผลต่อการผลิต รวมไปถึงการผลักดันเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในหลายๆ ประเทศนอกจากนี้ ภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศจีนจากสถานการณ์โควิด – 19 จึงทำให้เกิดมาตรการล็อกดาวน์ในหลายเมือง เลยทำให้มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไปทั่วโลก แต่อย่างไรก็ตามยังมีอีกหลายปัจจัยที่สนับสนุนดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของภาคผลิตโลก ที่มีระดับอยู่เหนือ 50 โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา อินเดีย เกาหลีใต้ ยุโรป และอาเซียนของเรา และรวมทั้งความต้องการของสินค้าที่จำเป็นจะต้องใช้ในชีวิตประจำวันของประชาชนนั้นเพิ่มขึ้น เลยทำให้การส่งออกของประเทศไทยนั้นยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการส่งออกทางด้านเกษตรและอาหาร

1.รถยนต์ และชิ้นส่วน ส่วนประกอบของยานพาหนะ

exportgoods

สำหรับการส่งออกตลาดหลักๆ ของชิ้นส่วนในเรื่องของยานยนต์ของประเทศไทย ไปจำหน่าย ได้แก่ ประเทศอเมริกา อยู่ที่มูลค่า 1.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ประเทศญี่ปุ่น มูลค่าอยู่ที่ 827.66 ล้านเหรียญสหรัฐ อินโดนีเซีย มูลค่าที่ 758.52 ล้านเหรียญสหรัฐ และประเทศจีน มูลค่าอยู่ที่ 534.15 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนประเทศที่ไทยนำเข้าชิ้นส่วนมาผลิตคือประเทศ ญี่ปุ่น – 2,783.12 ล้านเหรียญ ประเทศจีน – 1,597.74 ล้านเหรียญ ประเทศสหรัฐอเมริกา – 452.49 ล้านเหรียญ ประเทศอินโดนีเซีย – 416.49 ล้านเหรียญ และสุดท้ายประเทศเยอรมนี – 397.63 ล้านเหรียญ

2.เครื่องคอมพิวเตอร์ และชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

exportgoods

อุตสาหกรรมการส่งออกและนำเข้าของเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทยเรานั้นสามารถ ขยายตัวที่ 4.5% โดยปัจจัยสนับสนุนหลักๆ นั้นมาจากความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ ซึ่งทำให้ส่งผลตอบรับที่ดีต่อการผลิต เช่น แผงวงจรไฟฟ้า วงจรพิมพ์ การเติบโตในปีนี้มีแนวโน้มจะค่อยๆ ชะลอตัวแต่จะค่อยๆ ฟื้นฟูตามเศรษฐกิจของโลก นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของภาวะขาดแคลนของเซมิคอนดักเตอร์ของตลาดโลกที่ยืดเยื้อ ส่งผลให้การผลิตสินค้าในหลายๆ ประเภท อย่างเช่นเครื่องใช้ไฟฟ้า และรถยนต์ มูลค่าการนำเข้าและส่งออก 130,652 ล้านบาท คิดเป็น 7.7 %

3.ยางพารา

exportgoods

มูลค่าในการส่งออกของยางพาราที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เพราะเนื่องจากราคายางพารานั้นเพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยการสนับสนุนด้วยฤดูปิดกรีดยางและด้วยสภาพอากาศที่มีความแปรปรวนเลยทำให้มีผลต่อผลผลิตยางสู่ตลาดได้น้อย และผลกระทบจากอุตสาหกรรมยางธรรมชาตินั้นกำลังค่อยๆ ฟื้นตัว และมีความต้องการของผู้ผลิตยางรถยนต์เพิ่มขึ้นด้วย และผลจากที่ประเทศรัสเซียนั้นได้หยุดชะงักการปลิตอุตสาหกรรมด้านนี้ จึงทำให้ประเทศอื่นๆ รวมถึงประเทศไทยของเราเห็นช่องทางการผลิตและเพิ่มกำลังผลิตให้มากขึ้น โดยมูลค่าการผลิตสินค้าส่งออกของยางพารานั้นอยู่ที่ 71,831.7 ล้านบาทคิดเป็น 4.2 %

4.เคมีภัณฑ์ – ยา

exportgoods

ด้วยผลจากการที่ประชาชนคนไทยนั้นมีอัตราการเจ็บป่วยมากขึ้น ผลจำนวนผู้ได้รับการบริการของโรงพยาบาลลดลง เนื่องจากสถานการณ์ โควิด – 19 ผู้คนต่างหวากกลัวเชื้อไวรัส แต่สำหรับในปี 2565 คาดว่า มูลค่าการจำหน่ายในประเทศจะเริ่มค่อยๆ ขยายตัวดีขึ้นเรื่อยๆ อยู่ที่ 5% ตามความต้องการของยาที่เพิ่มมากขึ้นจากสาเหตุ การเจ็บป่วยของคนมากขึ้น ผู้สูงอายุมากขึ้นจึงตามมาด้วยโรคภัยต่างๆ และการเข้าถึงของประกันสุขภาพของประชาชน

5.เหล็ก

อุตสาหกรรมในประเทศไทยปี 2565 นั้น มีปริมาณความต้องการในสินค้าประเภทเหล็กสำเร็จรูปอยู่ที่ 8.78 ล้านตัน แต่เป็นจำนวนที่ลดลง 13% จากสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด – 19 ระบาด การลงทุนในสินค้าประเภทนี้จึงต่ำและชะลอตัวลง แต่ประเทศไทยในปี 2566 คาดว่าในอุตสาหกรรมสินค้าเหล็กสำเร็จรูปนั้นจะเริ่มค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นจากเดิม เพราะประเทศไทยนั้น เป็นประเทศที่อยู่ระหว่างกลางของประเทศ จีน และประเทศอินโดนีเซีย เลยทำให้ความต้องการของ 2 ประเทศนี้ยังคงทำให้ประเทศไทยนั้นยังส่งออกสินค้าประเภทเหล็กสำเร็จรูป