การค้า
ข่าวสารต่างๆ

สิทธิประโยชน์ทางการค้า หมายถึงอะไร และมีอะไรบ้าง?

‘สิทธิประโยชน์ทางการค้า’ ก็คือ สิทธิการส่งออกสินค้าของประเทศไทย ซึ่งอยู่ภายใต้ระบบ GSP, GSTP  รวมทั้ง CEPT  ซึ่งสิทธิประโยชน์ทางการค้านี้แจะทำให้ธุรกิจของคุณได้ลดภาษีศุลกากรขาเข้า ในจำนวน 85 ประเทศทั่วโลกเลยทีเดียว ซึ่งผลประโยชน์ ก็คือ จะทำให้ลูกค้าชาวไทยในต่างประเทศได้ซื้อสินค้าของ ภายในราคาที่ถูกลง อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้สั่งซื้อสินค้าของไทยเพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งสามารถเข้าแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ

สิทธิประโยชน์ทางการค้า เกิดขึ้นมาเพื่ออะไร?

โดยสิทธิประโยชน์ทางการค้านี้ มีจุดมุ่งหมายในการสร้างขึ้นมาก็เพื่อผู้ส่งออก ที่ประสบปัญหาในการขายสินค้าในประเทศให้กับลูกค้าในต่างประเทศ ทั้งในเรื่องของการต่อรองราคาที่จำเป็นต้องลดราคาให้กับลูกค้าจำนวนมาก เพื่อที่จะได้ลูกค้านั้น หรือรักษาลูกค้าไว้ไม่ให้สูญเสียไป แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ผลิตเสียผลประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง จึงทำให้ก่อให้เกิดสิทธิประโยชน์ทางการค้านี้ขึ้นมา เพื่อสร้างความเท่าเทียมและยุติธรรม

GSP

สำหรับประเทศที่ให้สิทธิ GSP นี้ จัดเป็นระบบสิทธิพิเศษภายในประเทศ ทางด้านภาษีศุลกากรทั่วไป ใช้ในประเทศที่พัฒนาแล้ว ประกอบด้วย 29 ประเทศ เช่น เบลเยียม, ไอร์แลนด์, อิตาลี, ฝรั่งเศส, สเปน, เยอรมนีม, ฟินแลนด์ เป็นต้น ช่วยในเรื่องของการลดอัตราภาษีศุลกากรสินค้าทางการเกษตร สินค้าอุตสาหกรรมบางประเภท ที่นำเข้าจากประเทศกำลังพัฒนารวมทั้งประเทศไทยด้วย

GSTP

ระบบนี้เป็นระบบทางการค้า ที่สร้างขึ้นมาเพื่อปลูกสัมพันธ์กับประเทศที่กำลังพัฒนา รวมทั้งประเทศไทยและประเทศอื่นๆด้วย ทั้งหมด 48 ประเทศ ช่วยในการลดอัตราภาษีศุลกากรกับสินค้าที่นำเข้าระหว่างกัน ได้แก่ สินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรมรวมทั้งสิ้น 1,627 รายการ มีประโยชน์ในเรื่องของการลดอัตราภาษีร้อยละ 2.5 – 100 เพราะฉะนั้นการส่งออกสินค้าของประเทศไทยก็ได้รับสิทธิพิเศษลดอัตราภาษีศุลกากรขาเข้านี้ด้วย

CEPT

สำหรับในคุณสมบัติพิเศษข้อนี้ คือการใช้อัตราภาษีศุลกากรในระดับพิเศษที่เท่ากันภายใต้ข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียนด้วยการลดอัตราภาษีศุลกากร ให้แก่ สินค้าที่นำเข้าระหว่างกันของประเทศสมาชิกอาเซียนซึ่งมีอยู่ 10 ประเทศ และประเทศไทยเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเพราะฉะนั้นข้อดีที่ได้รับ ก็คือ สินค้าส่งออกของประเทศไทยได้ รับสิทธิลดภาษีศุลกากรขาเข้าใน 9 ประเทศ

ทำอย่างไรถึงได้ใช้สิทธิพิเศษเช่นนี้?

สำหรับคำถามสำคัญต่อมา ก็คือ แล้วต้องทำอย่างไรสินค้าของคุณถึงจะได้รับสิทธิพิเศษนี้ ถ้าได้มากจะมีประโยชน์ต่อการทำธุรกิจเป็นอย่างมาก ก่อนอื่นเลยคุณก็จะต้องไปติดต่อกับกรมการค้าต่างประเทศ เพราะทางกรมจะให้บริการรับรอง พร้อมตรวจสอบแหล่งกำเนิดสินค้าของคุณเมื่อตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงจะออกหนังสือรับรองแหล่งสินค้าให้แก่ผู้ส่งออกของประเทศไทย ต่อมาเมื่อคุณได้เอกสารตัวนี้มาแล้วคุณก็นำไปแสดงต่อกรมศุลกากร เพื่อขอลดอัตราภาษีขาเข้าในประเทศ รวมทั้งสินค้าส่งออกแต่อย่างไรก็ตามสินค้าที่จะได้รับสิทธิพิเศษนี้ จะต้องเป็นสินค้าที่ได้รับการกำหนดเอาไว้ได้ แต่อย่างไรก็ตามสินค้าของคุณต้องผ่านเงื่อนไขภายใต้แหล่งกำเนิดสินค้า โดยผู้ตรวจสอบจะเข้าไปดูรายการสินค้าที่จะใช้ในการผลิต และต้องใช้วัตถุดิบในประเทศไทยทั้งหมด เช่น ผัก, ผลไม้, ที่เก็บปลูกและเก็บเกี่ยวในประเทศไทย เป็นต้น

คำแนะนำเพิ่มเติมที่คุณต้องรู้

  • การขนส่งโดยตรง ซึ่งสินค้าจะต้องส่งออกจากประเทศไทยไปยังประเทศปลายทางเท่านั้น
  • หนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า เช่น From A /From GST P /From D เป็นต้น โดยในส่วนนี้คุณจะต้องไปติดต่อขอจากกรมการค้าต่างประเทศโดนตรง
  • การดำเนินธุรกิจ นอกจากจะต้องสนใจในเรื่องของคุณภาพของสินค้าแล้ว ก็อย่าลืมใส่ใจในเรื่องของกระบวนการส่งออกหรือนำเข้าด้วย ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการทางกฎหมายเพื่อให้คุณได้รับสิทธิประโยชน์ที่สมควรจะได้รับและดีติดต่อธุรกิจของคุณมากที่สุด